3 สาเหตุที่ทำให้สิวอักเสบ กับวิธีดูแลผิวหน้าสำหรับคนเป็นสิว



หากพูดถึงสิวที่สร้างความบอบช้ำให้ผิวหน้ามากที่สุด "สิวอักเสบ" คือผู้ต้องหาอย่างไม่ต้องสงสัย สิวที่มักบวมแดง มีขนาดใหญ่ และเป็นหนอง พอหายมักทิ้งรอยแดง รอยแผลเป็นจากสิว หรือหลุมสิวไว้ให้ดูต่างหน้า แค่คิดถึงก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาทันที วันนี้ Derminet Thailand มีสาเหตุการเกิดสิวอักเสบ และวิธีป้องกันสิวอักเสบ สิวหนอง สิวหัวช้างมาฝากค่ะ

สาเหตุที่ทำให้สิวอักเสบ


เชื้อแบคทีเรีย P. Acne

ความมัน + เชื้อแบคทีเรีย

จริงๆแล้วความมันบนผิวหน้าถูกสร้างขึ้นเพื่อปกป้องผิวจากมลภาวะภายนอก นอกจากนี้ยังช่วยไม่ให้ผิวแห้งกร้าน เกิดริ้วรอยง่าย แต่สำหรับคนเป็นสิว ความมันที่มากเกินไป ทำให้รูขุมขนระบายน้ำมันออกไม่ทัน ทำให้เกิดการอุดตัน กลายเป็นสิวอุดตันขึ้น และเมื่อถูกคุกคามโดยเชื้อแบคทีเรีย P.Acnes สิวอุดตันจะเปลี่ยนสภาพกลายเป็นสิวอักเสบบวมแดง หรือแม้กระทั่งกลายเป็นสิวหนองในที่สุด

เครียดสิวขึ้น

ความเครียด

ความเครียดอาจเป็นตัวกระตุ้นให้สิวเกิดการอักเสบง่ายขึ้น เพราะเมื่อเกิดความเครียดร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนที่ไปกระตุ้นให้ต่อมไขมันทำงานมากขึ้น พอต่อมไขมันทำงานมากขึ้น หน้าก็จะมัน ความเสี่ยงการเกิดสิวอุดตันและสิวอักเสบจึงมีมาก พูดง่ายๆคือ ยิ่งเครียดสิวก็จะยิ่งอักเสบและเพิ่มจำนวนมากขึ้นนั่นเองค่ะ

นอนดึกสิวขึ้น

พักผ่อนไม่เพียงพอ

จริงๆแล้วการนอนดึกไม่ใช่สาเหตุหลักของการเกิดสิว แต่การนอนดึก หรือพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้ระบบร่างกายรวน เกิดความเครียดโดยไม่รู้ตัว ซึ่งอาจไปกระตุ้นให้สิวเกิดการอักเสบ หรือลุกลามมากขึ้นได้ค่ะ


วิธีป้องกันสิวอักเสบ


ล้างหน้าลดสิว

1. ล้างหน้าให้สะอาดหมดจด

ล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้าหรือสบู่ที่เหมาะกับสภาพผิวให้สะอาด ไม่ควรใช้น้ำเปล่าล้างหน้า เพราะน้ำเปล่าไม่สามารถขจัดความมันและเชื้อแบคทีเรียได้หมด

2. อย่าล้างหน้าบ่อยเกินไป 

เพราะการล้างหน้าบ่อยทำให้ผิวแห้ง ระคายเคือง และกระตุ้นให้สิวอักเสบลุกลามมากขึ้น ล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ก็เพียงพอค่ะ

3. คลีนก่อนล้าง

ถ้าต้องแต่งหน้า ทารองพื้น เบส หรือครีมกันแดด ควรใช้คลีนซิ่งเช็ดทำความสะอาดก่อนล้างหน้า แล้วตามด้วยการล้างหน้าตามปกติอีกครั้ง เพื่อป้องกันการอุดตันที่อาจเกิดขึ้น

ครีมรักษาสิวเดอร์มิเนต

4. ทายาลดสิว

ทายาหรือครีมที่ช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรียเพื่อลดการอักเสบของสิว และทายาหรือครีมที่มีสรรพคุณผลัดเซลผิว เพื่อลดและป้องกันการเกิดสิวอุดตัน

5. ทายาให้ต่อเนื่อง

ควรทาครีมหรือยารักษาสิวอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดี ไม่ควรทาๆหยุดๆ เพราะยาบางตัวอาจทำให้สิวเห่อในช่วงแรก อาจทำให้คนเป็นสิวตกใจได้

6. ยาบีบสิวโดยไม่จำเป็น

เพราะการบีบสิวทำให้สิวเกิดการอักเสบมากขึ้น

7. อย่าขัดถูหน้าแรง

หรือเอามือสัมผัสผิวหน้าบ่อย เพราะจะทำให้สิวเกิดการอักเสบ และทำให้เชื้อสิวแพร่กระจายมากขึ้นได้

8. หลีกเลี่ยงการทาครีมบำรุงโดยไม่จำเป็น

เพราะสารบางตัวที่อยู่ในครีมอาจกระตุ้นการเกิดสิวได้

9. ทานยารักษาสิว

ถ้าสิวเกิดการอักเสบรุนแรง หรือมีจำนวนมาก อาจต้องรักษาด้วยยาแบบรับประทานควบคู่ไปด้วย เพื่อให้การรักษาได้ผลดีมากขึ้น

10. ปรึกษาแพทย์

ถ้าเป็นสิวอักเสบรุนแรง เกินกว่าจะดูแลรักษาด้วยตัวเอง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาอย่างถูกวิธีค่ะ

ถึงแม้สิวอักเสบจะน่ากลัว แต่ถ้าเรารู้สาเหตุการเกิดสิวและพยายามหาวิธีรักษาและป้องกันการเกิดสิวก่อน ปัญหาสิวอักเสบจะไม่ลุกลามหรือรุนแรงมาก ช่วยให้การรักษาสิวง่ายขึ้นด้วยค่ะ ด้วยความปรารถนาดีจาก Derminet Thailand เวชสำอางโดยหมออร
Share on Google Plus

About Untitle

ผลิตภัณฑ์ DERMINET เป็นผลิตภัณฑ์เวชสำอางที่มีส่วนผสมของสารสกัดธรรมชาติ ที่มีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูบำรุงผิวที่มีมีปัญหาให้กลับคืนดังเดิม ผ่านการคิดค้น และ พัฒนาโดยทีมแพทย์ และ เภสัชกร เหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผู้มีปัญหาสิวผิวแพ้ง่าย

0 ความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น